ภัยไซเบอร์คือการคุกคามที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์หรือที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล อย่าง คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มิจฉาชีพหรือแฮกเกอร์จะ ใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อโจมตีระบบ เช่น การสูญหายของข้อมูล การเรียกค่าไถ่โดยในปัจจุบันมีการโจมตีทาง ไซเบอร์ในหลายรูปแบบด้วยกัน ในบทความนี้ Avery ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการโจมตี ทางไซเบอร์ที่พบกันได้บ่อยพร้อมกับวิธีป้องกันจาก เจ้าภัยไซเบอร์ เพิ่มความระมัดระวัง และ เตรียมตัวรับมือขององค์กร

สงสัยแล้วใช่มั้ยว่าภัยไซเบอร์ใกล้ตัวเรามีอะไรบ้าง

1. ฟิชชิ่ง (Phishing) : เคยได้รับอีเมลหรือข้อความที่ดูเหมือนมาจากธนาคารหรือบริษัทดังๆ ที่ขอให้เราคลิก ลิงก์หรือลงชื่อเข้าใช้บัญชีของเราไหม? นั่นคือ ฟิชชิ่ง เป็นการหลอกให้เราคลิก เข้าลิงก์ปลอมเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่านของเรา
2. แฮกบัญชีโซเชียลมีเดีย : การแฮกบัญชีโซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งภัยไซเบอร์ที่ใกล้ตัวมากแฮกเกอร์อาจขโมยรหัส ผ่านของเราและเข้าควบคุมบัญชีเพื่อโพสต์ข้อความหลอกลวงหรือขโมยข้อมูลส่วนตัว
3. แรนซัมแวร์ (Ransomware) : แรนซัมแวร์คือภัยไซเบอร์สุดแสบที่แฮกเกอร์ใช้เข้ารหัสไฟล์หรือทั้งคอมพิวเตอร์ของคุณ ทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้และเรื่องมันจะไม่จบแค่นั้นหลังจากนั้นคุณจะได้รับ ข้อความจากพวกเขาเพื่อ "เรียกค่าไถ่ (Ransom)" ถ้าคุณไม่จ่ายเงินตามที่พวกเขา ต้องการคุณก็จะไม่ได้รับรหัสในการปลดล็อกไฟล์หรือคอมพิวเตอร์คืน
4. มัลแวร์ (Malware) : ย่อมาจากคำว่า Malicious Software หมายถึงซอฟต์แวร์ที่ประสงค์ร้ายต่อ คอมพิวเตอร์และเครือข่ายมัลแวร์ เป็นโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบ มาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของเรา มัลแวร์มีหลายรูปแบบที่ต้องระวัง ได้แก่ :

            - ไวรัส (Virus) : ไวรัสเป็นมัลแวร์ที่มักแอบซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรมหรือไฟล์ต่างๆ แล้วจะแพร่ กระจายไปยังเครื่องอื่นๆ เมื่อคุณรันโปรแกรม หรือเปิดไฟล์ที่มีไวรัสอยู่ ไวรัส สามารถสร้างความเสียหายได้มากถ้าไม่ได้รับการแก้ไข อย่างทันท่วงที

            - เวิร์ม (Worm) : เวิร์มเป็นมัลแวร์ที่สามารถแพร่กระจายตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทางระบบเครือข่าย เช่น อีเมล หรือการแชร์ไฟล์ เวิร์มไม่จำเป็นต้องพึ่งพา การรันโปรแกรมหรือเปิดไฟล์เหมือนไวรัสแต่มันสามารถกระจายตัวเองได้โดย อัตโนมัติ

            - โทรจัน (Trojan) : โทรจันเป็นมัลแวร์ที่แกล้งทำตัวเป็นโปรแกรมที่ดูปลอดภัยทำให้ผู้ใช้เผลอติดตั้ง ลงไปโดยไม่รู้ตัวจากนั้นโทรจันก็จะเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้ามาทำสิ่งไม่ดีใน เครื่องของเรา เปรียบเหมือนแขกที่ดูไม่มีพิษมีภัยที่คุณเชิญเข้าบ้านอย่างไว้ใจ แต่พอเผลอเท่านั้นแหละมันกลับทำให้บ้านของคุณกลายเป็นสนามรบโดยไม่ทันตั้งตัว!

               - แบคดอร์ (Backdoor) : แบคดอร์คือการเปิดช่องทางให้ผู้อื่นเข้ามาใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว เหมือนการแอบเปิดประตูหลังบ้านทิ้งไว้ให้โจรเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

                - รูทคิท (Rootkit) : รูทคิทคือมัลแวร์ที่ช่วยให้คนอื่นสามารถเข้ามาติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมในเครื่องของเรา พร้อมได้สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (Root) ทำให้สามารถควบคุมเครื่องของเรา ได้เต็มที่

                - สปายแวร์ (Spyware) : คล้ายกับนักสืบเงียบๆ ที่คอยเฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวของคุณเก็บข้อมูล ส่วนตัวของคุณ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลทางการเงินแล้วส่งต่อให้ผู้ ไม่หวังดีใช้ประโยชน์ตามต้องการ

ทุกคนกลัวการโจมตีจากทางไซเบอร์กันแล้วใช่มั้ยละงั้นเราจะพาทุกไปดูกับแนววิธีการป้องกัน สั้นๆเข้าใจง่าย

1. อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก : ถ้าไม่แน่ใจว่าอีเมลหรือข้อความนั้นมาจากใคร อย่าเพิ่งคลิก! ตรวจสอบให้ดีก่อนเสมอ
2. ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง : ใช้รหัสผ่านที่มีความยาวและผสมระหว่างตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ และอย่าใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายๆ บัญชี
3. หมั่นอัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน : การอัปเดตช่วยแก้ไขช่องโหว่ในระบบ ทำให้มัลแวร์หรือแฮกเกอร์โจมตีได้ยากขึ้น

รักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรารู้ทันและระมัดระวัง! ด้วยความเป็นห่วงจาก “Avery IT Tech” ติดตามเรื่องราว IT ต่างๆที่ Avery IT Tech เพราะเรื่อง IT อยู่รอบตัวคุณ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.truedigitalacademy.com/blog/6-types-of-cyber-security-threats