Green Cloud Computing คืออะไร


4/Nov/2025
Avery IT Tech
Cloud Services

    ท่ามกลางวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ทั้งภาวะโลกร้อนและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำมาสู่กระแสของ Green Cloud Computing (การประมวลผลแบบคลาวด์สีเขียว) ซึ่งเป็นบริการด้านไอทีที่ออกแบบมาเพื่อ ลดการใช้พลังงาน และ ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ต

ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเทคโนโลยี แม้ว่าการใช้ซอฟต์แวร์จะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม แต่การทำงานของอุปกรณ์ไอที โดยเฉพาะ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ใช้พลังงานจำนวนมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมาจากแหล่งพลังงานที่ไม่หมุนเวียนและก่อมลพิษ เช่น เชื้อเพลิงฟอสซิล ก๊าซธรรมชาติ หรือพลังงานนิวเคลียร์

การใช้พลังงานที่มากเกินไปนี้ส่งผลให้เกิด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ ก๊าซเรือนกระจก ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

Green Cloud Computing คือคำตอบ

Green Cloud Computing เป็นทางออกที่สำคัญในการบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ด้วยการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาปรับใช้ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

1. ลดการใช้พลังงานและคาร์บอนฟุตพริ้นท์

  • การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) และ การจำลองเซิร์ฟเวอร์ (Server Virtualization) ช่วยให้องค์กรสามารถรวมหลายเซิร์ฟเวอร์ทางกายภาพ (Physical Server) ให้มาอยู่ในเซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Server) จำนวนน้อยลง ทำให้ลดขนาดของศูนย์ข้อมูลและ ลดความต้องการใช้ไฟฟ้า สำหรับการรันเวิร์กโหลดและการทำความเย็นได้อย่างมาก
  • จากการศึกษาของ Google, Lawrence Berkeley National Laboratory และ Northwestern University พบว่า หากชาวอเมริกัน 86 ล้านคนหันมาใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์บนคลาวด์แทนการจัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ จะช่วย ประหยัดพลังงานลงได้มากถึง 87 เปอร์เซ็นต์ และในช่วงปี 2010–2020 การเปลี่ยนไปใช้คลาวด์ช่วยลดการใช้พลังงานลงกว่า 31 เปอร์เซ็นต์ (อ้างอิงจากข้อมูลเบื้องต้น)
  • ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่หลายราย เช่น Google และ Microsoft (Azure) ได้หันมาลงทุนและใช้ พลังงานหมุนเวียนทดแทน อย่างพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อจ่ายไฟให้กับศูนย์ข้อมูลของตนเอง ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ (Source: TechTarget, A-HOST)

2. ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-waste)

  • คลาวด์ช่วยให้องค์กรประหยัดการใช้งานทรัพยากร โดย ลดความจำเป็นในการจัดซื้อและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไอที เช่น เซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่ายภายในองค์กรบ่อยครั้ง
  • เมื่อใช้อุปกรณ์น้อยลงในการรันเวิร์กโหลดและมีการจัดการวงจรชีวิตอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วย ลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะถูกทิ้งสู่สิ่งแวดล้อม

3. การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • Green Cloud Computing ยังครอบคลุมถึงการส่งเสริมการใช้ วัสดุรีไซเคิล ในการผลิตอุปกรณ์ และการลดใช้ส่วนประกอบอุปกรณ์ไอทีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Source: Sansiri Blog)

แนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน

    การขับเคลื่อนสู่ Green Cloud Computing ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ให้บริการคลาวด์เท่านั้น องค์กรที่ใช้บริการก็สามารถมีส่วนร่วมได้ โดยการ เลือกใช้ทรัพยากรคลาวด์อย่างชาญฉลาด ปรับลดขนาดพื้นที่ตามความต้องการใช้งานจริง และการเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและมีเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กร ติดตามปริมาณการปล่อยคาร์บอน จากการใช้คลาวด์ (เช่น Google Cloud Carbon Footprint) (Source: TELUS Digital)

Green Cloud Computing จึงเป็นมากกว่าแค่เทคโนโลยี แต่เป็น กระบวนทัศน์ใหม่ ในยุคดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ เพื่อให้เรามีอนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป