ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราคงคุ้นเคยกับเครื่องมืออย่าง Generative AI เช่น ChatGPT ที่สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆ อย่างข้อความ รูปภาพ หรือแม้กระทั่งวิดีโอ แต่ในช่วงเวลานี้ ก็มีแนวคิดใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจไม่น้อย นั่นคือ Agentic AI ซึ่งเป็นการก้าวไปอีกขั้นของ AI ที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระและมีความสามารถในการตัดสินใจด้วยตัวเอง
Agentic AI คืออะไร?
Agentic AI คือระบบที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระสูง สามารถตัดสินใจและดำเนินการต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในทุกขั้นตอน ซึ่งมันทำงานได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งที่ชัดเจนในทุกๆ การกระทำของมัน เช่น การวางแผนและการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ โดยมันจะประเมินสถานการณ์และเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย
ตัวอย่างการใช้งานในชีวิตจริง
Generative AI vs Agentic AI: พฤติกรรมและการทำงานที่แตกต่างกัน
Generative AI มีจุดเด่นที่การสร้างเนื้อหาตามคำสั่ง เช่น การเขียนบทความ การสร้างรูปภาพ หรือการพัฒนาโค้ดตามคำขอของผู้ใช้งาน แต่มันจะไม่สามารถทำอะไรที่เกินไปจากการสร้างเนื้อหานั้นๆ
ในขณะที่ Agentic AI มีความสามารถในการดำเนินการตามคำขอที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ เช่น การตัดสินใจ, การปรับตัว, หรือการดำเนินการในระบบต่างๆ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ตัวอย่างการใช้งาน
Generative AI: หากลูกค้าถามคำถามเช่น “ยอดเงินในบัญชีของฉันเท่าไหร่?” หรือ “รายการธุรกรรมล่าสุดมีอะไรบ้าง?” AI ก็จะให้คำตอบได้อย่างรวดเร็ว
Agentic AI: แต่ถ้าลูกค้าต้องการให้โอนเงิน $100 จากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่ง Agentic AI ก็สามารถทำการโอนเงินนั้นได้โดยทันที
วิวัฒนาการจาก Generative AI สู่ Agentic AI
การก้าวไปสู่ Agentic AI ถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญในโลกของปัญญาประดิษฐ์ เพราะมันไม่เพียงแค่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่าง Generative AI แต่ยังสามารถตัดสินใจและดำเนินการได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะทำให้การใช้งาน AI มีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
สิ่งที่น่าสนใจคือ Agentic AI ไม่ได้มาแทนที่ Generative AI แต่จะทำหน้าที่เสริมสร้างให้ระบบ AI มีความสามารถในการจัดการกับปัญหาหรือสถานการณ์ที่ต้องการการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น!
ทั้ง Agentic AI และ Generative AI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีในหลายอุตสาหกรรม Agentic AI ช่วยให้ระบบทำงานอัตโนมัติและตัดสินใจได้โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ ในขณะที่ Generative AI สร้างสรรค์เนื้อหาตามคำสั่ง
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองประเภทนี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เตรียมพร้อมใช้ AI เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า!
ติดตามเรื่องราว IT ต่างๆได้ที่ Avery IT Tech เพราะเรื่อง IT อยู่รอบตัวคุณ...
#AveryITTech #Ai #IT #Agentic AI #Generative AI #Agentic AIvsGenerative AI #เทคโนโลยี
ขอบคุณแหล่งที่มา https://boost.ai/blog/agentic-ai-vs-generative-ai/