ถ้าพูดถึง AI แชตบ็อต หลายคนคงคุ้นเคยกับ ChatGPT กันดี แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้มีคู่แข่งตัวใหม่ที่กำลังมาแรงสุด ๆ นั่นก็คือ DeepSeek จากประเทศจีน! แถมเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2025 DeepSeek ยังสามารถแซงหน้า ChatGPT กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบน iOS App Store ในสหรัฐฯ อีกด้วย!

เรื่องนี้ไม่ใช่เล่น ๆ เพราะมันส่งผลให้ราคาหุ้นของ Nvidia ลดลงถึง 18% เลยทีเดียว! งานนี้เลยมีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่า...

DeepSeek ดีกว่า ChatGPT หรือเปล่า?  DeepSeek จะโค่น ChatGPT ได้ไหม?

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ DeepSeek ว่ามันคืออะไร? มีอะไรเจ๋ง ๆ บ้าง? และมันจะเปลี่ยนอนาคตของ AI ไปอย่างไร? ไปดูกันเลย!

DeepSeek คืออะไร? DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่พัฒนา Large Language Model (LLM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่ ChatGPT ใช้ แต่มีความแตกต่างที่สำคัญคือ DeepSeek เป็นโอเพ่นซอร์ส!

LLM คืออะไร? LLM (Large Language Model) คือโมเดล AI ที่ถูกฝึกด้วยข้อมูลขนาดมหึมาเพื่อให้สามารถ เข้าใจและสร้างข้อความที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ ได้ดีที่สุด หนึ่งในโมเดลที่สำคัญของ DeepSeek ก็คือ DeepSeek-R1 ซึ่งว่ากันว่าความสามารถใกล้เคียงกับ GPT-4 เลยทีเดียว!

ทำไม DeepSeek ถึงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ ChatGPT?

1. รองรับภาษาจีนได้เทพกว่า ChatGPT DeepSeek ถูกฝึกฝนมาทั้งภาษา จีนและอังกฤษ ทำให้มันเข้าใจภาษาจีนได้อย่างลึกซึ้ง ต่างจาก ChatGPT และ LLaMA ที่โฟกัสที่ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
2. เป็นโอเพ่นซอร์สแท้ ๆ ต่างจาก OpenAI ที่ยังมีข้อจำกัดในการเปิดเผยข้อมูล DeepSeek เปิดเผยอัลกอริธึม โมเดล และข้อมูลการฝึกฝนทั้งหมด นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อิสระ!
3. มี DeepSeek-Coder สำหรับสายโปรแกรมเมอร์: สำหรับคนที่ทำงานด้านการเขียนโค้ด DeepSeek-Coder เป็นโมเดลที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ มีจุดเด่นดังนี้: ใช้งานได้ฟรี ฝึกบนข้อมูลกว่า 2 ล้านล้านโทเคน รองรับ 80+ ภาษาเขียนโปรแกรม รองรับ Python, Java, C++, .Net และอีกเพียบ! อ้างว่าประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4 และ LLaMA ในด้านการเขียนโค้ด! 

ข้อได้เปรียบของ ChatGPT

1. เป็นที่รู้จักทั่วโลก มีฐานผู้ใช้ที่ใหญ่และแข็งแกร่ง
2. มีระบบนิเวศที่ครบครัน (API, ปลั๊กอิน, การร่วมมือกับ Microsoft)
3. มีชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่ และมีอัปเดตใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ข้อได้เปรียบของ DeepSeek

1. เข้าใจภาษาจีนและบริบทของวัฒนธรรมจีนได้ดีเยี่ยม
2. เป็นโอเพ่นซอร์ส เปิดให้พัฒนาต่อได้อย่างอิสระ
3. มีเป้าหมายไปที่ AGI ซึ่งอาจทำให้มีศักยภาพสูงกว่าในอนาคต

DeepSeek เป็นผู้เล่นใหม่ที่กำลังมาแรงและอาจเป็น ตัวเปลี่ยนเกมในวงการ AI โดยเฉพาะในตลาดจีนและหมู่นักพัฒนาโอเพ่นซอร์ส แต่ถึงอย่างนั้น ChatGPT ก็ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งระดับโลกที่มีฐานผู้ใช้แข็งแกร่งกว่า AI ตัวไหนจะครองโลก? อนาคตของ AI อาจขึ้นอยู่กับว่า DeepSeek จะพัฒนาไปไกลแค่ไหน และ OpenAI จะตอบโต้กลับมาอย่างไร! 

ติดตามเรื่องราว IT ต่างๆได้ที่ Avery IT Tech เพราะเรื่อง IT อยู่รอบตัวคุณ...

#AveryITTech #IT#AI#DeepSeek#ChatGPT#เปรียบเทียบAI#AIแชทบอท#เทคโนโลยีAIล่าสุด